สำหรับการปลูกในแปลงปลูก ดินควรเป็นดินที่ร่วนซุย ถ้าดินไม่ค่อยดีควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เศษพืชต่างๆ เมื่อพรวนดินแล้วจึงขุดหลุมปลูกอาจปลูกเป็นหลุมละต้น หลุมกว้างยาวลึก 50-75 ซ.ม.โดยขุดแบ่งดินเป็น 2 ระดับ ขุดลงไป 30 ซ.ม.แรก ควรกองดินไว้ทางหนึ่งเรียกว่าหน้าดิน อีก 45 ซ.ม.หลัง กองแยกไว้อีกทางหนึ่งเรียกว่าดินก้นหลุม สำรับหน้าดินให้ตากให้แห้งสนิทประมาณ 6-10วัน ใช้กาบมะพร้าวหรืออิฐหักรองก้นหลุมเพื่อช่วยในการระบายน้ำ นำปุ๋ยคอก และ ขุยมะพร้าวผสมโดยใช้ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1ส่วน ขุยมะพร้าว 1 ส่วน ในส่วนผสม ลบ.เมตรเติมปุ๋ยสูตร 5-10-5 ซุปเปอร์ฟอสเฟสหรือกระดูกป่น 1 กก. คลุกเคล้าให้เข้ากันดี นำไปใส่ในหลุมจนเต็ม จากนั้นรอดินยุบตัวดีจึงลงมือปลูก ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยที่หาง่ายและสามารถย่อยได้ดีใน 1-2 เดือน ยิ่งถ้าเป็นมูลวัวจะทำให้กุหลาบใช้ประโยชน์จากปุ๋ยได้มากสุดเนื่องจากมูลวัวช่วยให้การเจริญเติบโตของรากกุหลาบดีขึ้น ส่วนกระดูกป่นเป็นปุ๋ยที่ให้ฟอสฟอรัสสูงและสลายตัวช้า
ส่วนการเตรียมดินปลูกในภาชนะ ต้องปรับปรุงดินให้ร่วนซุยมากๆ เพราะหลัง
จากปลูกไปแล้ว จะปรับปรุงดินได้ยากกว่าในแปลง ถ้าดินไม่ร่วนซุยพอ จะทำให้ดินจับตัวเป็นก้อนและทำให้ระบายน้ำไม่ได้ เมื่อรดน้ำน้ำจะขังและทำให้พืชเหี่ยวและตายได้
นอกจากนี้การปลูกในภาชนะดินต้องมีธาตุอาหารเพียงพอ ดังนั้นจึงนิยมใช้ดินผสมที่มีขายตามท้องตลาดหรืออาจผสมเองก็ได้ โดยใช้ดินร่วนหรือดินทรายผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ย
หมัก เศษวัสดุต่างๆ จนดินมีสภาพเหมาะสมกับการปลูก
สำหรับการปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับสถานที่หรือสวนหย่อม ควรเตรียมหลุมปลูกหรือและปรับปรุงดินไว้ล่วงหน้าและคำนึงถึงการระบายน้ำ โดยอาจยกระดับดินบริเวณหลุมปลูกให้สูงกว่าระดับสนามเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังโคนต้น
ที่มา :
http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/bm521/pantipa09_2/rose/content/soilprepare.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น